ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา!

สอนการเลือกแผ่นทำความเย็น

ผนังแผ่นทำความเย็นมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในฟาร์ม โรงเรือน โรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ประเภทที่พบมากที่สุดในตลาดปัจจุบันคือ ผนังแผ่นทำความเย็นตามความสูงของลอนจะแบ่งออกเป็น 7 มม. 6 มม. และ 5 มม. และตามมุมลอนจะแบ่งออกเป็น 60 ° และ 90 ° ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดเช่น 7090, 6090, 905090 เป็นต้น ตาม ความหนาของแผ่นทำความเย็นแบ่งออกเป็น 100 มม. 150 มม. 200 มม. เป็นต้น

เยว่เน็ง1

คุณภาพของม่านเปียกสามารถประเมินได้จากสามด้านต่อไปนี้:
1. คุณภาพของกระดาษ
แผ่นทำความเย็นในท้องตลาดมีหลายยี่ห้อ แต่คุณภาพแตกต่างกันมากแผ่นทำความเย็นคุณภาพสูงต้องทำจากเยื่อกระดาษดิบที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษซึ่งมีเส้นใยเข้มข้น ดูดซับน้ำได้ดี และมีความแข็งแรงสูงแผ่นทำความเย็นคุณภาพต่ำมีเส้นใยน้อยลงเพื่อเพิ่มความแข็งแรง กระดาษจึงได้รับการเสริมความแข็งแรงให้กับพื้นผิวกระดาษประเภทนี้ดูดซึมน้ำได้ไม่ดี และเปราะเมื่อถู
2. ความแรงของแผ่นทำความเย็น
แผ่นทำความเย็นในการทำงานต้องแช่น้ำไว้จึงต้องมีความแข็งแรงสูง ไม่เช่นนั้นอาจพังและเป็นเศษได้ง่ายแผ่นทำความเย็นคุณภาพสูงประกอบด้วยเส้นใยมากมาย ความเหนียวดี ความแข็งแรงสูง การยึดเกาะที่แข็งแกร่ง ทนทานต่อการแช่ในระยะยาวแผ่นทำความเย็นคุณภาพต่ำจะใช้สารภายนอกอื่นๆ บนพื้นผิว เช่น การแช่น้ำมัน เพื่อให้ได้ความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งการดูดซึมน้ำและการยึดเกาะของมันจะได้รับผลกระทบอย่างมาก กระดาษประเภทนี้มีอายุการใช้งานสั้นและมีแนวโน้มที่จะยุบตัวได้
วิธีกำหนดความแข็งแรงของแผ่นทำความเย็น:
วิธีที่ 1: นำแผ่นทำความเย็นขนาด 60 ซม. และวางราบบนพื้นผิวเรียบผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 60-70 กก. ยืนอยู่บนแผ่นทำความเย็น และแกนกระดาษสามารถรับน้ำหนักดังกล่าวได้เต็มที่โดยไม่เสียรูปหรือยุบตัว
วิธีที่ 2. นำแผ่นทำความเย็นชิ้นเล็กๆ มาต้มในน้ำร้อนที่อุณหภูมิคงที่ 100 ℃ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยไม่แตกร้าวแผ่นทำความเย็นที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมมีความแข็งแกร่งกว่าและใช้เวลาต้มนานขึ้น
3. ประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำของแผ่นทำความเย็น
แช่แผ่นทำความเย็นลงในน้ำ ยิ่งดูดซับน้ำได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี และยิ่งอัตราการดูดซึมน้ำเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้นเนื่องจากแผ่นทำความเย็นจะเย็นลงโดยการระเหย โดยมีอากาศไหลเวียนเพียงพอ ยิ่งมีน้ำมากเท่าไร การระเหยก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น และผลการทำความเย็นก็จะยิ่งดีขึ้นด้วย

เยว่เน็ง2

เวลาโพสต์: 19 ก.ค.-2024